คำว่า "ลีกชาวนา" กลายเป็นคำที่แฟนบอลชาวอังกฤษใช้เยาะเย้ยลีกสูงสุดของฝรั่งเศสมาโดยตลอด โดยมีพื้นฐานมาจากภาพลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นชาติที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ในขณะเดียวกัน ภาคเกษตรกรรมก็ยังมีบทบาทสำคัญ (1.7% ของ GDP) ซึ่งภาพลักษณ์ของเกษตรกรฝรั่งเศสที่ใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรขนาดใหญ่ในการเพาะปลูก อาจถูกมองว่าแตกต่างจากความแข็งแกร่งของลีกฟุตบอล

           ด้วยมายาคติดังกล่าว ทำให้ชาวอังกฤษบางส่วนมองว่า ลีก เอิง อาจจะไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร เนื่องจากผู้คนน่าจะให้ความสำคัญกับการทำไร่ทำสวนมากกว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสนามกลับสวนทางกับความเชื่อเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง

           ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง เริ่มต้นด้วยการโค่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะไล่เก็บ ลิเวอร์พูล ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย, แอสตัน วิลล่า ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และล่าสุดคือการดับซ่า อาร์เซนอล ในรอบรองชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 3-1

           จากผลงานอันยอดเยี่ยมนี้ ทำให้กุนซือชาวสเปนวัย 55 ปี ที่เพิ่งฉลองวันเกิดไปเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ได้ทีออกมาตอบโต้และแดกดันบรรดาผู้ที่เคยดูถูกลีกของตนได้อย่างเจ็บแสบ

           "พวกเขาเรียกเราว่าลีกของชาวนาใช่ไหม? ใช่ เราคือลีกชาวนา" เอ็นรีเก้ กล่าวผ่าน ฟุตบอล ออน ทีเอ็นที สปอร์ตส์ พร้อมรอยยิ้ม

           "ใช่เลย มันแจ่มมาก เราไม่เพียงแต่มีความสุขกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในการเผชิญหน้ากับสโมสรจากอังกฤษเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคำชื่นชมจากทุกฝ่ายที่พูดถึงทีมของเราด้วย"

[ เกร็ดบอล 7M ]

• อุสมาน เดมเบเล่ แนวรุกความเร็วสูงของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง คือผู้เล่นคนสำคัญในเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ โดยมีส่วนร่วมกับ 12 ประตู (ยิง 8 ประตู และทำ 4 แอสซิสต์) ซึ่งมากที่สุดสำหรับผู้เล่นจาก ลีก เอิง ในฤดูกาลเดียว และในเกมล่าสุดที่เอาชนะ อาร์เซนอล 2-1 เดมเบเล่ ก็เป็นคนแอสซิสต์ให้ อัชราฟ ฮาคิมี่ ทำประตูได้ด้วย