วิเคราะห์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ระหว่าง เชลซี พบ เอฟเวอร์ตัน

สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี กำลังอยู่ในช่วงเร่งเครื่องทำอันดับเพื่อคว้าตั๋วยุโรป พวกเขาต้องการสามคะแนนเต็มในบ้านเพื่อรักษาโมเมนตัมและเกาะกลุ่มหัวตารางต่อไป ในขณะที่ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน แม้อันดับจะอยู่กลางตารางค่อนไปทางล่าง แต่ก็ยังต้องการคะแนนเพื่อการันตีความอยู่รอดและจบอันดับให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้แรงจูงใจอาจไม่เท่าเจ้าบ้าน แต่ศักดิ์ศรีก็ค้ำคออยู่

การพบกันครั้งล่าสุดที่สนามแห่งนี้เมื่อเดือนเมษายน 2024 กลายเป็นฝันร้ายของทีมเยือน เมื่อ เชลซี เปิดบ้านถล่ม เอฟเวอร์ตัน ไปแบบไม่ไว้หน้าถึง 6-0 อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนไปในภาพรวม สถิติการเจอกันค่อนข้างจะสูสี ผลัดกันแพ้ชนะ โดยเฉพาะเมื่อ เอฟเวอร์ตัน เล่นในบ้าน พวกเขามักสร้างปัญหาให้ เชลซี ได้เสมอ ดังเกมล่าสุดที่ กูดิสัน พาร์ค ที่ เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านเอาชนะไป 2-0 (ธันวาคม 2023) แต่เกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ มักจะเป็น เชลซี ที่ทำได้ดีกว่า มีเพียงไม่กี่ครั้งที่ เอฟเวอร์ตัน บุกมาแบ่งแต้มหรือคว้าชัยได้

• 

  0 - 0

  
  เอฟเวอร์ตัน

  เชลซี
  พรีเมียร์ลีก 2024-12-22
• 

  6 - 0

  
  เชลซี

  เอฟเวอร์ตัน
  พรีเมียร์ลีก 2024-04-16
• 

  2 - 0

  
  เอฟเวอร์ตัน

  เชลซี
  พรีเมียร์ลีก 2023-12-10
• 

  2 - 2

  
  เชลซี

  เอฟเวอร์ตัน
  พรีเมียร์ลีก 2023-03-18
• 

  0 - 1

  
  เอฟเวอร์ตัน

  เชลซี
  พรีเมียร์ลีก 2022-08-06
• 

  1 - 0

  
  เอฟเวอร์ตัน

  เชลซี
  พรีเมียร์ลีก 2022-05-01
• 

  1 - 1

  
  เชลซี

  เอฟเวอร์ตัน
  พรีเมียร์ลีก 2021-12-17
• 

  2 - 0

  
  เชลซี

  เอฟเวอร์ตัน
  พรีเมียร์ลีก 2021-03-09
• 

  1 - 0

  
  เอฟเวอร์ตัน

  เชลซี
  พรีเมียร์ลีก 2020-12-13
• 

  4 - 0

  
  เชลซี

  เอฟเวอร์ตัน
  พรีเมียร์ลีก 2020-03-08
• 

  3 - 1

  
  เอฟเวอร์ตัน

  เชลซี
  พรีเมียร์ลีก 2019-12-07
• 

  2 - 0

  
  เอฟเวอร์ตัน

  เชลซี
  พรีเมียร์ลีก 2019-03-17
• 

  0 - 0

  
  เชลซี

  เอฟเวอร์ตัน
  พรีเมียร์ลีก 2018-11-11
• 

  0 - 0

  
  เอฟเวอร์ตัน

  เชลซี
  พรีเมียร์ลีก 2017-12-23
• 

  2 - 1

  
  เชลซี

  เอฟเวอร์ตัน
  อีเอฟแอลคัพ 2017-10-25
• 

  2 - 0

  
  เชลซี

  เอฟเวอร์ตัน
  พรีเมียร์ลีก 2017-08-27
• 

  0 - 3

  
  เอฟเวอร์ตัน

  เชลซี
  พรีเมียร์ลีก 2017-04-30
• 

  5 - 0

  
  เชลซี

  เอฟเวอร์ตัน
  พรีเมียร์ลีก 2016-11-05
• 

  2 - 0

  
  เอฟเวอร์ตัน

  เชลซี
  เอฟเอคัพ 2016-03-12
• 

  3 - 3

  
  เชลซี

  เอฟเวอร์ตัน
  พรีเมียร์ลีก 2016-01-16

กุนซือ วินเซนโซ ม่าเรซก้า จะไม่มี เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, มาโล กุสโต้ และ มาร์ก กียู ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมถึง มีไคโล มูดริค ที่ติดโทษแบน ส่วนผู้เล่นบาดเจ็บรายอื่น ๆ ที่ระบุในข้อมูลเบื้องต้น (เช่น รีสส์ เนลสัน, แฮร์รี่ วิลสัน, แอรอน อันเซลมิโน่, โอมารี เคลลีแมน, ดาวิด ดาโทร โฟฟาน่า) ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรืออาจเป็นผู้เล่นเก่า/เป้าหมาย ไม่ใช่ผู้เล่นบาดเจ็บปัจจุบันของทีมชุดใหญ่ที่จะลงเล่นเกมนี้ ฟอร์มล่าสุด เชลซี อันดับ 6 เกมล่าสุด บุกไปเฉือนชนะ ฟูแล่ม 2-1 ฟอร์มล่าสุด ชนะ 3 เกม เสมอ 2 เกม แพ้ 1 เกม ถือว่าผลงานในลีกเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง แม้จะมีสะดุดในบอลยุโรป สถิติที่น่าสนใจคือ พวกเขายิงประตูได้ต่อเนื่อง 4 เกมติด แต่ก็เสียประตูมา 3 เกมติดเช่นกัน บ่งบอกว่าเกมรุกอาจจะดีขึ้น แต่เกมรับก็ยังมีช่องโหว่ ฟอร์มการเล่นในบ้านยังคงแข็งแกร่ง ชนะ 7 จาก 10 เกมหลังสุดในทุกรายการ และ ชนะ 5 จาก 7 เกมหลังสุดในลีกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ (เสมอ 1 แพ้ 0 ใน 3 เกมลีกหลังสุดในบ้าน) ภาพรวมถือว่ากำลังมั่นใจ โดยเฉพาะเกมในบ้านที่ดุดัน คาดว่า ม่าเรซก้า จะยังยึดมั่นในระบบ 4-2-3-1 แดนกลางใช้ เอ็นโซ เฟอร์นานเดซ คุมเกมร่วมกับ มอยเซส ไกเซโด แนวรุกมี โคล พาล์มเมอร์ เป็นเพลย์เมกเกอร์ตัวความหวัง ขนาบข้างด้วย โนนี่ มาดูเอเก้ และ เปโดร เนโต้ (?) หน้าเป้าเป็น นิโคลัส แจ็คสัน รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม: โรเบิร์ต ซานเชซ (GK) รีส เจมส์ เทรโวห์ ชาโลบาห์ เลวี่ โคลวิลล์ มาร์ค กูกูเรย่า มอยเซส ไกเซโด เอ็นโซ เฟอร์นานเดซ โนนี่ มาดูเอเก้ โคล พาล์มเมอร์ เปโดร เนโต้ นิโคลัส แจ็คสัน

กุนซือ เดวิด มอยส์ เจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บรบกวนพอสมควร จะไม่มี เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ปราการหลังตัวหลัก, โอแรล ม็องกาล่า กองกลางตัวยืม, เยสเปอร์ ลินด์สตรอม และดาวยิงอย่าง โดมินิค คาลเวิร์ท เลวิน นอกจากนี้ อาร์มันโด้ โบรย่า ก็จะหมดสิทธิ์ลงสนามเจอทีมแม่ตามกฎการยืมตัว (ผู้เล่นบาดเจ็บที่ระบุในข้อมูลเบื้องต้น เช่น แอแดร์ซง, อาคานจี, สโตนส์, ฮาแลนด์, อาเก้, โรดรี้, โฟเดน เป็นผู้เล่นของ แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งในเกมล่าสุด ไม่ใช่ผู้เล่นบาดเจ็บของ เอฟเวอร์ตัน) ฟอร์มล่าสุด เอฟเวอร์ตัน อันดับ 13 เกมล่าสุด เปิดบ้านแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ฟอร์มล่าสุด ชนะ 1 เกม เสมอ 3 เกม แพ้ 2 เกม ฟอร์มโดยรวมยังดูฝืด ชนะเพียงเกมเดียวจาก 10 นัดหลังสุดในลีก (เสมอ 5 แพ้ 4) สถิติบ่งชี้ว่าพวกเขามักจะเสียประตู (เสีย 9 จาก 10 เกมหลังสุด) แต่ก็ยังพอทำประตูได้บ้าง (ยิง 8 จาก 10 เกมหลังสุด) ฟอร์มการเล่นเกมเยือนไม่ชนะใครมา 5 จาก 8 นัดหลังสุดในลีก (ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 4) และยิงประตูนอกบ้านได้ค่อนข้างน้อย (12 ประตูจาก 16 เกมเยือน) ภาพรวมยังดูเป็นรองเจ้าบ้านชัดเจน คาดว่า มอยส์ จะวางหมากในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน โดยใช้ เบโต้ ยืนค้ำแดนหน้าแทน โบรย่า และ คาลเวิร์ท เลวิน แดนกลางมี อับดุลลาย ดูกูเร่ เป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุก ร่วมกับ แจ็ค แฮร์ริสัน และ อิลิมัน เอ็นดิอาย โดยมี อิดริสซา กูเอเย่ กับ เจมส์ การ์เนอร์ คอยตัดเกม รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม: จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK) เจค โอไบรเอน ไมเคิ่ล คีน จาร์แรด แบรนธ์เวต วิตาลี่ มีโคเลนโก้ อิดริสซา กูเอเย่ เจมส์ การ์เนอร์ แจ็ค แฮร์ริสัน อับดุลลาย ดูกูเร่ อิลิมัน เอ็นดิอาย เบโต้

เชลซี ต้องการสามแต้มอย่างยิ่งเพื่อเป้าหมายฟุตบอลยุโรป และการได้เล่นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ พวกเขาน่าจะเปิดเกมรุกเข้าใส่ตามสไตล์ ด้วยความหวังจาก โคล พาล์มเมอร์ ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง และการเข้าทำของ นิโคลัส แจ็คสัน รวมถึงตัวริมเส้นอย่าง มาดูเอเก้ รูปเกมน่าจะเป็น เชลซี ที่ครองบอลบุกเป็นส่วนใหญ่ ส่วน เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ เดวิด มอยส์ คงมาเน้นเกมรับให้แน่นไว้ก่อน แล้วรอหาจังหวะสวนกลับเร็ว หรืออาศัยลูกตั้งเตะ ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขาพอจะหวังผลได้ โดยมี อับดุลลาย ดูกูเร่ คอยสอดขึ้นมาทำประตู แต่ด้วยสภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์ ขาดทั้งกองหลังตัวหลักและกองหน้าตัวเป้า ทำให้ศักยภาพลดลงไปเยอะ เมื่อเทียบกับเกมรุกที่หลากหลายและฟอร์มในบ้านที่แข็งแกร่งของ เชลซี แล้ว เชื่อว่า สิงห์บลูส์ ที่มีความมุ่งมั่นมากกว่า น่าจะอาศัยความได้เปรียบในการเล่นในบ้านและคุณภาพผู้เล่นที่ดีกว่า บดเอาชนะไปได้ในที่สุด แม้ เอฟเวอร์ตัน จะสู้เต็มที่ก็ตาม
สกอร์ที่คาด: เชลซี 2-0 เอฟเวอร์ตัน
ฟันธง: ต่อ เชลซี ดูดีมีอนาคต