ครึ่งแรก

นาทีที่ 7 : สิงโตคำราม ได้ประตูนำเร็ว 1-0 โดย คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ไหลบอลให้ แอนโธนี่ กอร์ดอน ซัดในเขตโทษฝั่งซ้ายติดเซฟจังหวะแรก แต่บอลเข้าทาง แฮร์รี่ เคน ตามซ้ำง่ายๆ เข้าไป 

นาทีที่ 28 : อังกฤษ น่าจะได้ประตูที่สองสุดๆ ไคล์ วอล์คเกอร์ เปิดบอลจากขวาเข้ากลาง เอเบเรชี่ เอเซ่ ชาร์จเสาแรกโดนไม่เต็ม บอลเลยมาถึง แอนโธนี่ กอร์ดอน ยิงจ่อๆ เสาไกล แต่หลุดเสาออกหลังหน้าตาเฉย

นาทีที่ 36 : เซเนกัล ตอบโต้คืนบ้าง อิลิมาน เอ็นดิอาย เปิดบอลจากขวาให้ อีดริสซ่า กาน่า เกย์ จับแล้วยิงทะลุบล็อกเข้ากรอบ ทว่า เฮนเดอร์สัน ยังปัดบอลเอาไว้ได้

นาทีที่ 40 : ช่วงท้ายครึ่งแรก เซเนกัล ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ นิโกลัส แจ็คสัน ตวัดบอลจากเกือบสุดเส้นฝั่งขวากลับมากลางประตู อิสไมล่า ซาร์ โฉบตัดหน้า วอล์คเกอร์ เข้ากระทุ้งเน้นๆ ตุงตาข่าย

จบครึ่งแรก เซเนกัล ตามตีเสมอ อังกฤษ 1-1 

ครึ่งหลัง

นาทีที่ 60 : อังกฤษ มีลุ้นจากจังหวะที่ มอร์แกน โรเจอร์ส จ่ายบอลให้ เคอร์ติส โจนส์ ตั้งป้อมซัดหน้าเขตโทษ ทว่าบอลโด่งข้ามคาน

นาทีที่ 62 : เป็น เซเนกัล ที่ได้ประตูแซงนำ 2-1 กาลิดู กูลิบาลี่ ตักบอลข้ามแนวรับอังกฤษให้ ฮาบิบ ดิยาร์ร่า หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนซัดลอดขา เฮนเดอร์สัน เข้าไป

นาทีที่ 72 : เซเนกัล เกือบได้ประตู นิโกลัส แจ็คสัน รับบอลจาก กาน่า เกย์ ก่อนลากมาซัดหน้าเขตโทษ เฮนเดอร์สัน ต้องออกแรงเซฟอีกครั้ง

นาทีที่ 84 : อังกฤษ พยายามตามตีเสมอให้ได้และส่งบอลเข้าประตูได้ จากเตะมุมฝั่งซ้ายที่ โนนี่ มาดูเอเก้ เปิดโด่งไปโดน ลีวาย โคลวิลล์ ก่อนเข้าทาง จู๊ด เบลลิงแฮม กระดกแล้วดีดด้วยขวาเข้าไป ทว่าผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนชี้ขาดว่าบอลโดนแขน โคลวิลล์ อังกฤษ จึงไม่ได้ประตูตีเสมอ

จบเกม เซเนกัล แซงชนะ อังกฤษ 3-1