เอ็นโซ่ มาเรสก้า เฮดโค้ชของ เชลซี เชื่อมั่นว่าการคว้าแชมป์ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ฤดูกาล 2024-25 ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ เรอัล เบติส ไปอย่างขาดลอย 4-1 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยให้กลุ่มเจ้าของสโมสรอย่าง บลูโค ซึ่งนำโดย ท็อดด์ โบห์ลี่ และ เบห์ดาด เอ็กห์บาลี่ เกิดความเชื่อมั่นในตัวเขาและทีมงานมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะได้รับอิสระในการทำงานโดยไม่ถูกก้าวก่ายอีกต่อไป

           กลุ่มพันธมิตรสัญชาติอเมริกันได้เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการ "สิงห์บลูส์" เมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 และได้ทุ่มเม็ดเงินมหาศาลนับพันล้านปอนด์เพื่อเสริมทัพ แต่ทีมกลับไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ มาครองได้เลย จนกระทั่งสามารถปลดล็อคความสำเร็จได้ที่ ทาร์ซินสกี้ อาเรน่า ในโปแลนด์

           การได้โทรฟี่ส่งท้ายฤดูกาล 2024-25 นอกเหนือจากการคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากการจบในอันดับท็อปห้าของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ คาดว่าจะกลายเป็น "เครื่องราง" ที่ช่วยให้ตำแหน่งของ มาเรสก้า มั่นคง และทำให้การทำงานเพื่อต่อยอดความสำเร็จในอนาคตเป็นไปอย่างราบรื่น

           "ผมทั้งภูมิใจมากและมีความสุขมากๆ ในหลายเหตุผล" มาเรสก้า เปิดใจผ่าน 'ฟุตบอล ออน ทีเอ็นที สปอร์ตส์' "เอาแค่ตัวเองก่อนมันทำให้เดินยืด ทั้งยังเป็นสิ่งที่คู่ควรต่อแฟนบอล เพราะพวกเขารอแชมป์มาหลายปี (ตั้งแต่แชมเปี้ยนส์ลีกปี 2022)"

           "ทางสโมสรก็ลงทุนไปหลายอัฐิรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นพวกเขาก็รอผลลัพธ์อยู่เหมือนกัน" เฮดโค้ชชาวอิตาเลียนกล่าวเสริม "หวังว่ารายการนี้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น จากคืนนี้ไป, นับแต่ฤดูกาลนี้ เราได้สร้างสิ่งสำคัญขึ้นแล้ว ฤดูกาลหน้าก็จะพยายามกันใหม่อีกครั้ง"

           มาเรสก้า ยังทิ้งท้ายด้วยการเน้นย้ำถึงช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองสั้นๆ ก่อนจะกลับมาลุยงานต่อ "เวลานี้ก็รื่นเริงให้เต็มที่สัก 7-10 วัน จากนั้นก็ค่อยเริ่มกันอีกครั้ง"

           อย่างไรก็ตาม เชลซี คงจะพักหายใจได้ไม่นานนัก เพราะพวกเขากำลังจะเป็น 1 ใน 32 ทีมที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงกลางเดือนหน้า

[ เกร็ดบอล 7M ]

• กลุ่มทุนของ ท็อดด์ โบห์ลี่ ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากการทุ่มเงินจำนวนมากแต่ทีมยังไม่ประสบความสำเร็จ การคว้าแชมป์นี้จึงเป็นเหมือนการพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและทิศทางที่ถูกต้องในการบริหารสโมสร