ครึ่งแรก
นาทีที่ 5 : เรอัล มาดริด ได้จุดโทษอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ เชสนี่ แหย่ขาไปสกัด เอ็มบัปเป้ ล้มลงในเขตโทษ แล้วก็เป็น เอ็มบัปเป้ รับหน้าที่สังหารยิงเข้าไปไม่พลาด เชสนี่ พุ่งถูกทางแต่ไม่ทัน 1-0

นาทีที่ 14 : เกมรุกประสานงานกันอย่างยอดเยี่ยมสำหรับ เรอัล มาดริด จังหวะที่ ยามาล โดนอัดล้มลงไม่ได้ฟาวล์ ทีมเยือนไม่สนใจพร้อมเล่นต่อ วินิซิอุส จ่ายติดไซด์ก้อยให้ เอ็มบัปเป้ หลุดกับดักล้ำหน้ายิงผ่าน เชสนี่ เข้าไปเฉียบขาด 2-0

นาทีที่ 19 : เกมเปิดแล้วแบบนี้ จากลูกที่ มาร์ติน ยิงอย่างมันแต่ยังไม่ผ่านมือ คูร์กตัวส์ แล้วได้เตะมุม โอลโม่ เปิดไปเสาแรก เฟร์ราน โหม่งเช็ดเข้าทาง การ์เซีย โขกจ่อ ๆ เข้าไปไม่เหลือ 1-2

นาทีที่ 32 : หลังบุกหนัก บาร์เซโลน่า มาได้ประตูตีเสมอจนได้ บอลจาก เปดรี้ จ่ายให้ เฟร์ราน ก่อนแตะต่อไปยัง ยามาล ยิงไม่จับเลย บอลพุ่งหนีมือ คูร์กตัวส์ เข้าไปงดงาม 2-2

นาทีที่ 34 : เหลือเชื่อสำหรับ บาร์เซโลน่า ที่ค่อย ๆ นวดจนมายิงแซงแล้วตอนนี้ จังหวะที่ เอ็มบัปเป้ ไปชนกันเองกับ เซบาญอส จนโดน เปดรี้ ฉกได้แล้วไหลให้ ราฟินญ่า หลุดไปยิงฉีกตัว คูร์กตัวส์ เข้าไปแบบเด็ดขาด 3-2

นาทีที่ 45 : ความผิดพลาดโดยตรงของ บาซเกซ ที่โดน ราฟินญ่า แย่งได้แล้วจ่ายให้ เฟร์ราน ที่เติมมาก่อนคืนให้ ราฟินญ่า ยิงจ่อ ๆ ตุงตาข่าย 4-2

จบครึ่งแรก บาร์เซโลน่า นำ เรอัล มาดริด 4-2

ครึ่งหลัง 
นาทีที่ 49 : เริ่มเกมครึ่งหลังมาไม่นาน บาร์เซโลน่า ยังคงครองบอลแล้วมีลุ้นประตูที่ห้า ยามาล ยิงจังหวะแรกติดบล็อก บอลยังไม่ไปไหน เปดรี้ หาช่องก่อนจ่ายคืน ยามาล ปั่นเล็งสามเหลี่ยมหลุดกรอบ

นาทีที่ 70 : เรอัล มาดริด มาได้ประตูตีตื้นขึ้นมา อินญิโก้ พลาดจนโดน โมดริช ได้แทงบอลให้ วินิซิอุส หลุดไปจ่ายให้กับ เอ็มบัปเป้ แปโล่ง ๆ เข้าไป แล้วเวลายังเหลือเยอะด้วย ช่วงที่เหลือมันแน่นอน 3-4

นาทีที่ 74 : ยิงหลุดเหลือเชื่อ บอลไซด์ก้อยของ ยามาล อันตรายสุด ๆ แล้วเกือบได้ผลเมื่อเปิดให้ ราฟินญ่า เข้าชาร์จจ่อเหลือเกินแต่ดันหลุดกรอบแบบไม่น่าเชื่อ

นาทีที่ 90+6 : บาร์เซโลน่า อดปิดกล่องจากจังหวะที่ เฟร์มิน ปั๊มชนะ วัลเวร์เด้ ก่อนลากไปยิงหนี คูร์กตัวส์ เฉียบขาด แต่ VAR เช็คว่าเขาแฮนด์บอลก่อน

จบเกม บาร์เซโลน่า เอาชนะ เรอัล มาดริด 4-3