"ผมรู้ว่าเมื่อทีมแพ้ ผู้คนมักจะพูดถึงผลงานของผู้ตัดสิน แต่ผมจะไม่คิดมากกับเรื่องนั้น" เชสนี่ กล่าวอย่างตรงไปตรงมา "ไม่จำเป็นต้องหาข้อแก้ตัว จะต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์บ้าง แต่มันก็ไม่คุ้มที่จะไปในทางนั้น"

           ผู้รักษาประตู ทีมชาติโปแลนด์ ยังกล่าวถึงจังหวะปัญหาที่ เปา กูบาร์ซี่ กองหลังดาวรุ่งของทีมทำฟาวล์ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ กองหน้าคู่แข่งในกรอบเขตโทษช่วงท้ายครึ่งแรก ซึ่งนำไปสู่การเสียจุดโทษ "ผมอยู่ใกล้มากและผมคิดว่ามันไม่ใช่จุดโทษด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนว่า เปา ไม่ได้สัมผัสบอลเลยต้องเป่าเป็นจุดโทษ มันเป็นจังหวะที่รวดเร็วและการตัดสินใจก็เป็นเช่นนั้น ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว"

           ถึงแม้จะรู้สึกผิดหวังกับการตกรอบอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ทีมมีโอกาสในการคว้าแชมป์ แต่ เชสนี่ ก็แสดงความภาคภูมิใจในเพื่อนร่วมทีม โดยเฉพาะบรรดานักเตะดาวรุ่ง "เราเล่นฟุตบอลในแนวทางของเรามาตลอด และผมคิดว่าเราสมควรได้รับสิ่งนั้น มันน่าเสียดายเพราะเราเข้าใกล้แล้ว แต่สุดท้ายก็หลุดมือไป มากกว่าความโกรธ ผมภูมิใจในตัวนักเตะเหล่านี้ พวกเขายังอายุน้อยและเพิ่งเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งของพวกเขา"

           "พวกเขาทั้งหมดแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาจะต้องคว้าถ้วยรางวัลนี้มาได้อีกหลายครั้งอย่างแน่นอน ตอนนี้มันน่าเศร้า แต่ก็ไม่ใช่จุดจบของโลก เพราะพวกเขามีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า" เชสนี่ กล่าวเสริมด้วยความเชื่อมั่น

           นอกจากนี้ เชสนี่ ยังเชื่อว่าความผิดหวังจากการตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเผชิญหน้ากับ เรอัล มาดริด ในศึก "เอล กลาซิโก้" ที่กำลังจะมาถึงในวันอาทิตย์นี้

           "ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องกระตุ้นใครให้เล่นในเกมที่สำคัญที่สุดของฤดูกาลนี้ เกมที่อาจตัดสินแชมป์สเปนได้" นายทวารจอมเซฟกล่าวทิ้งท้าย "ผมเชื่อว่าทีมนี้จะฟื้นตัวทั้งทางจิตใจและร่างกายในระดับสูงสุดในวันอาทิตย์นี้ เพื่อเอาชนะ เอล กลาซิโก้ และคว้าแชมป์มาครองให้ได้"

[ เกร็ดบอล 7M ]

• การที่ผู้เล่นออกมาปกป้องผู้ตัดสินร่วมชาติ แม้ว่าการตัดสินนั้นจะส่งผลเสียต่อทีมตนเอง ถือเป็นภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในวงการฟุตบอล แสดงให้เห็นถึงความเป็นสุภาพบุรุษและความเข้าใจในสถานการณ์ที่ยากลำบากของผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสนาม