"การคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ มีความหมายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ซับซ้อนที่เราประสบอยู่เนื่องจาก โควิด-19 และมีตัวเลือกให้เซ็นสัญญาไม่มากนักเนื่องจากปัญหาทางการเงิน ซึ่งบังคับให้เราต้องส่งนักเตะดาวรุ่งจำนวนมากเข้าสู่ทีม มันมีความหมายมากสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเตะ, สโมสร หรือตัวผม สำหรับการทำงานที่ยอดเยี่ยมที่เราทุกคนทำกันในตอนนั้น" คูมัน ย้อนรำลึกถึงความสำคัญของแชมป์โกปา เดล เรย์ ในช่วงที่เขาคุมทีม

           "ไม่มีทีมเต็งในรอบชิงชนะเลิศประเภทนี้ หากคุณวิเคราะห์มัน บาร์เซโลน่า อาจมีผลงานที่ดีกว่าในฟุตบอล แต่ในเกมระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ และสำหรับ เรอัล มาดริด ที่คือโอกาสที่จะชดเชยความเศร้าที่ทำให้พวกเขาตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก" กุนซือชาวดัตช์วิเคราะห์ถึงแรงจูงใจของทั้งสองทีม

           "พวกเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากฟอร์มการเล่นและผลงาน แต่ในรอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ ระหว่างสองทีมที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีทีมเต็งเลย" คูมัน ย้ำถึงความสูสีของเกม "เอล กลาซิโก้" ในนัดชิงชนะเลิศ

           นอกจากนี้ คูมัน ยังกล่าวถึงสถานการณ์ของ คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีม เรอัล มาดริด ที่อนาคตกับสโมสรยังไม่แน่นอนว่า "ท้ายที่สุดแล้ว ในวงการฟุตบอล โค้ชคือคนรับผิดชอบ เราต้องยอมรับว่า อันเชล็อตติ ทำงานได้ดีมาก เขาเป็นโค้ชที่คว้าแชมป์มากที่สุดในโลก"

           "เขาเป็นโค้ชที่ดี เขาจัดการทีมอย่าง เรอัล มาดริด ได้ดีมากด้วยสตาร์มากมาย สำหรับผม เขาไม่ใช่คนที่ต้องรับผิดชอบ หากพวกเขาไม่ได้รับชัยชนะ เราต้องมองหาความรับผิดชอบจากทุกๆคน แต่สุดท้ายแล้วโค้ชคือคนที่ต้องรับผิดชอบเสมอ" คูมัน กล่าวปกป้องเพื่อนร่วมอาชีพ

[ เกร็ดบอล 7M ]

• เกม "เอล กลาซิโก้" ในนัดชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ ถือเป็นหนึ่งในเกมที่แฟนบอลทั่วโลกต่างรอคอย ด้วยศักดิ์ศรีและความเป็นอริกันของทั้งสองสโมสร ทำให้ผลการแข่งขันมักจะพลิกผันและคาดเดาได้ยาก แม้ว่าในช่วงหลัง บาร์เซโลน่า จะมีฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอกว่า แต่ เรอัล มาดริด ก็เป็นทีมที่มีประสบการณ์และความเขี้ยวลากดินในเกมใหญ่