ครึ่งแรก
นาทีที่ 5 : อังเดรย์ อิลิช หัวหอกหมายเลข 23 ของ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน พุ่งเข้าทำประตูสุดสวย ส่งบอลตุงตาข่าย พาต้นสังกัดขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 19 : ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ได้เฮกันอีกครั้ง จากจังหวะลูกเตะมุมที่เปิดเข้ามาอย่างแม่นยำ ดิโอโก้ เลเต้ ปราการหลังหมายเลข 4 ทำประตูอย่างเฉียบขาด 2-0

นาทีที่ 23 : หลังจากโดนนำห่างไม่นาน สตุ๊ตการ์ต ก็ตอบโต้ทันควัน เดนิซ อุนดาฟ มิดฟิลด์หมายเลข 26 ซัดประตูสุดสวย ไล่ตาม ยูเนี่ยน เบอร์ลิน มาเป็น 1-2

นาทีที่ 29 : รูปเกมพลิกผันอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่นาทีต่อมา สตุ๊ตการ์ต ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จ เอ็นโซ่ มิลโลต์ มิดฟิลด์หมายเลข 8 โชว์ทักษะการยิงที่ยอดเยี่ยม บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2

นาทีที่ 38 : หลังจากถูกตีเสมออย่างรวดเร็ว ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น จากจังหวะเข้าทำที่ต่อเนื่อง เลโอโปลด์ เควอร์เฟลด์ ปราการหลังหมายเลข 14 จัดการส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้ทีมขึ้นนำ สตุ๊ตการ์ต อีกครั้งด้วยสกอร์ 3-2

นาทีที่ 43 : เกมนี้มันส์สุดขีด สตุ๊ตการ์ต ตามตีเสมอได้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว จากจังหวะลูกเตะมุม เจฟฟ์ ชาบ็อต ปราการหลังหมายเลข 24 ขึ้นโขกบอลเต็มศีรษะ บอลตุงตาข่าย ทำให้สกอร์กลับมาเสมอกันที่ 3-3

นาทีที่ 45+1 : มีประตูพลิกผันอีกครั้ง คริส ฟือห์ริช มิดฟิลด์หมายเลข 27 ของ สตุ๊ตการ์ต ซัดประตูสุดสำคัญในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ส่งให้ สตุ๊ตการ์ต พลิกขึ้นนำ อย่างเหลือเชื่อด้วยสกอร์ 4-3

นาทีที่ 45+6 : เหลือเชื่อยิ่งกว่า ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ก็ไม่ยอมให้ สตุ๊ตการ์ต นำนาน อังเดรย์ อิลิช หัวหอกคนเดิม จัดการซัดประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ ช่วยให้ทีมตามตีเสมอ 4-4 อย่างทันควัน

จบครึ่งแรก ยูเนี่ยน เบอร์ลิน เสมอ สตุ๊ตการ์ต 4-4

ครึ่งหลัง
นาทีที่ 72 : เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกมที่สกอร์ยังคงตรึงอยู่ที่ 4-4 สตุ๊ตการ์ต ตัดสินใจทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยส่ง รามอน เฮนดริกส์ ปราการหลังหมายเลข 3 ลงสนามมาแทน เจฟฟ์ ชาบ็อต ปราการหลังหมายเลข 24

นาทีที่ 90+2 : เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลัง ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยส่ง ลูคัส ตูซาร์ มิดฟิลด์หมายเลข 29 ลงสนามมาแทน อันดราส ชาเฟอร์ มิดฟิลด์หมายเลข 13

จบเกม ยูเนี่ยน เบอร์ลิน เสมอ สตุ๊ตการ์ต 4-4