ครึ่งแรก
นาทีที่ 18 : เปโดร ตาเนาซู เพลย์เมกเกอร์ ราชบุรี เอฟซี ทำชิ่งกับ มาร์ติน เอ็นจีว่า ก่อนที่ เปโดร ตาเนาซู จะได้ล่อเป้าเหน่งๆ เข้าไป แต่ VAR เช็กภาพช้ากว่า 6 นาที ก่อนสรุปให้ผู้ตัดสิน สงกรานต์ บุญมีเกียรติ ยืนยันว่า มาร์ติน เอ็นจีว่า อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อน สกอร์ยัง 0-0

นาทีที่ 29 : ราชบุรี เอฟซี ได้ประตูออกนำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จริงๆ 1-0 จาก จักรพันธ์ แก้วพรม ที่หลุดขึ้นไปยิงที่ริมซ้าย ก่อนที่จะโดนไลน์แมนจับล้ำหน้า แต่สุดท้าย VAR เช็กพร้อมยืนยันว่า จักรพันธ์ ไม่ล้ำ เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของ ราชบุรี เอฟซี

นาทีที่ 33 : เกมรุกของ ราชบุรี เอฟซี ยังไหลลื่น จังหวะนี้ มาร์ติน เอ็นจีว่า หาจังหวะพลิกยิงบริเวณจุดโทษ บอลติดเซฟ นีล เอเธอริดจ์ แต่ปัดไม่ออก บอลเสียบสามเหลี่ยมเข้าไป ราชบุรี เอฟซี นำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 

นาทีที่ 40 : สงกรานต์ บุญมีเกียรติ เป่าให้จุดโทษกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จังหวะที่ ดิออน คูลส์ โดน อภิสิทธิ์ โสรฎา เบียดล้มในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ กิลเยร์เม่ บิสโซลี่ จะยิงจุดโทษเข้าไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไล่มาเป็น 1-2 และเป็นประตูที่ 23 ของ กิลเยร์เม่ บิสโซลี่ ในไทยลีกซีซั่นนี้ 

จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตาม ราชบุรี เอฟซี 1-2

ครึ่งหลัง
นาทีที่ 60 : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ประตูตีเสมอจากการทำชิ่งเร็วของ กิลเญเม่ บริสโซลี ที่เบิ้ลให้ ศุภชัย ใจเด็ด ได้ซัดประตูโล่งๆเข้าไป VAR เช็กจังหวะนี้ ยืนยันว่า กิลเญเม่ บริสโซลี ไม่ล้ำหน้า สกอร์กลับมาเสมอ 2-2 

นาทีที่ 87 : ศุภชัย ใจเด็ด ได้ปั่นด้วยขวานอกกรอบ บอลเหินโด่งข้ามคานออกไปนิดเดียว 

นาทีที่ 90+1 : มาร์ติน โบอาเคีย ตัวสำรองบุรีรัมย์ได้โขกจากลูกเตะมุม บอลเสยคานออกไป

นาทีที่ 90+5 : ราชบุรี เอฟซี มาได้ประตูชัยในนาทีบาป จังหวะที่ นีล เอเธอร์ริจ นายด่าน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกมาไม่เจอบอลที่ริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่ เปโดร ทาน่า จะจ่ายเข้ากลางให้ มาร์ติน เอ็นจีว่า ที่ดึงหลอกและใส่พานให้ โชติภัทร พุ่มแก้ว ตัวสำรองยิงโล่งๆ เข้าไป 3-2

จบเกม ราชบุรี เอฟซี เฉือนชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3-2