สโมสรได้เปิดเผยแผนการดังกล่าวผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าโครงการนี้จะสนับสนุนแผนการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร และคาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับเศรษฐกิจของประเทศได้ถึง 7,300 ล้านปอนด์ต่อปี สร้างงานใหม่ 92,000 ตำแหน่ง สร้างบ้านใหม่กว่า 17,000 หลัง และดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านคนต่อปี

           ภาพจำลองและโมเดลขนาดจริงของสนามแห่งใหม่และพื้นที่โดยรอบได้รับการเปิดเผยโดย Foster + Partners กลุ่มสถาปนิกชื่อดังที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลโครงการนี้ โดยสนามแห่งใหม่จะตั้งอยู่ใกล้กับสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเดิม เพื่อรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของสนามประวัติศาสตร์แห่งนี้ไว้

           เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ผู้นำบริหารงานด้านฟุตบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า "วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่น่าตื่นเต้นในการสร้างสนามฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดที่ได้รับการฟื้นฟู สนามปัจจุบันของเราได้ให้บริการที่ดีเยี่ยมตลอด 115 ปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้มันตามหลังสนามกีฬาที่ดีที่สุดในโลกไปแล้ว การสร้างสนามใหม่ใกล้กับสนามเดิมจะช่วยให้เราสามารถรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเอาไว้ โดยสนามที่ทันสมัยสามารถเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของแฟนบอลได้อย่างแท้จริง"

           "สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือโอกาสที่สนามใหม่จะเป็นตัวกระตุ้นในการฟื้นฟูทางสังคมและเศรษฐกิจของพื้นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สร้างงานและการลงทุนไม่เพียงแต่ในช่วงการก่อสร้าง แต่ยังเป็นประโยชน์ในระยะยาวเมื่อโครงการเสร็จสิ้น"

           "รัฐบาลได้ระบุการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเป็นความสำคัญเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะในภาคเหนือของอังกฤษ และเราภูมิใจที่ได้สนับสนุนภารกิจนี้ผ่านโครงการที่มีความสำคัญทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่นนี้"

           แหล่งข่าวจากบีบีซีรายงานว่า แผนการสร้างสนามแห่งใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะใช้เงินลงทุนมูลค่ากว่า 2,000 ล้านปอนด์

[ เกร็ดบอล 7M ]

• สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เปิดใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ. 1910 และเป็นสนามเหย้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาอย่างยาวนาน
• สนามแห่งใหม่จะมีความจุ 100,000 ที่นั่ง ซึ่งจะทำให้เป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
• โครงการฟื้นฟูพื้นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะไม่เพียงแต่สร้างสนามฟุตบอลใหม่ แต่ยังรวมถึงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและสังคม