ครึ่งแรก
นาทีที่ 20 : หลังจากที่ ลาซซารี แย่งบอลได้ อิซัคเซ่น เลี้ยงบอลเจาะแนวรับ โบโด กลิมท์ ก่อนจะจ่ายบอลเรียดให้ คาสเตลลานอส สะกิดบอลเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น ลาซิโอ ขึ้นนำ 1-0 สกอร์รวมเป็น 2-1 แล้ว เกมกำลังเข้มข้น

นาทีที่ 24 : เกือบไปแล้ว จากฟรีคิกทางฝั่งซ้าย บลอมเบิร์ก โหม่งบอลตรงกรอบ แต่ มานดาส เซฟไว้ได้ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที อิซัคเซ่น และ คาสเตลลานอส ประสานงานกันอีกครั้ง คาสเตลลานอส ได้โอกาสยิงไกล 20 หลา แต่บอลเหินข้ามคานไป

นาทีที่ 45 : ลาซิโอ แย่งบอลกลับมาได้ และยังคงอยู่ในพื้นที่อันตราย กีล่า เปิดบอลจากทางขวา ซัคคานญี่ พุ่งโหม่ง แต่บอลเฉี่ยวชนคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

จบครึ่งแรก ลาซิโอ ขึ้นนำ โบโด กลิมท์ 1-0 

ครึ่งหลัง
นาทีที่ 63 : ซัคคานญี่ เปิดบอลจากทางซ้าย เปโดร ได้วอลเลย์มุมแคบอย่างสวยงาม แต่ ไฮกิ้น ล้มตัวเซฟไว้ได้อย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะการเล่นที่ยอดเยี่ยมทั้งเกมรุกและเกมรับ

นาทีที่ 90+3 : เจ้าบ้านทำประตูได้อย่างเหลือเชื่อในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากจังหวะโหม่งลงพื้นของ โรมันโญลี่ ในกรอบเขตโทษที่เต็มไปด้วยผู้เล่น โนสลิน ตามซ้ำจ่อๆ เข้าไป สกอร์ในเกมนี้เป็น 2-0 สกอร์รวมกลับมาเท่ากันที่ 2-2 โบโด กลิมท์ หัวใจสลาย พวกเขาเหลืออีกแค่วินาทีเดียวก็จะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

จบ 90 นาที สกอร์รวมยังเท่ากันที่ 2-2 จึงมีการต่อเวลาพิเศษ 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษ
นาทีที่ 99 : เกนดูซี่ พาบอลขึ้นไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดบอลโค้งไปเสาไกล บูลาเย่ ดิอา ตัวสำรองเทกตัวโหม่งเข้าไป 3-0 ลาซิโอ ขึ้นนำด้วยสกอร์รวม 3-2 พวกเขาจะรักษาสกอร์นี้ไว้ได้หรือไม่

นาทีที่ 109 : ในขณะที่เวลาใกล้หมดลง แชมป์จากนอร์เวย์กลับมาสู่เกมอีกครั้ง เฮลเมอร์เซ่น โหม่งบอลเต็มศีรษะจากลูกครอสทางฝั่งซ้ายของ มาอัตต้า จากระยะ 6 หลา บอลพุ่งผ่านมือ มานดาส เข้าไป สกอร์รวมกลับมาเท่ากันที่ 3-3 เป็นการยิงที่เจ็บแสบสำหรับ ลาซิโอ เกมพลิกผันอีกครั้ง

นาทีที่ 120 : เฮลเมอร์เซ่น ไปทำฟาวล์ เทชาอูน่า อย่างน่าเสียดาย ทำให้เขาได้รับใบเหลืองที่สองนับตั้งแต่ลงมาจากม้านั่งสำรอง นั่นหมายความว่าเขาต้องถูกไล่ออกจากสนามไป โบโด กลิมท์ เหลือผู้เล่นเพียง 10 คนในช่วงเวลาที่เหลือของช่วงต่อเวลาพิเศษ

จบ 120 นาที สกอร์รวมยังเท่ากันที่ 3-3 จึงมีการดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่า โบโด กลิมท์ สามารถดวลจุดโทษชนะ ลาซิโอ ไป 3 ประตูต่อ 2

จบเกม โบโด กลิมท์ ดวลจุดโทษชนะ ลาซิโอ ไป 3 ประตูต่อ 2